สถานที่ตั้งเครื่องซักผ้า
- ไม่ตั้งเครื่องที่เปียกแฉะ โดนฝน โดนแดด
- ระวังหนู มด
- ระบบสายไฟต้องได้มาตรฐาน หลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กพวง เนื่องจากขณะปั่นหมาดเครื่องจะสั่นทำให้ปลั๊กหลวมได้ กรณีที่ปลั๊กไม่แน่นจะทำให้ไฟฟ้าเดินไม่สะดวก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อแผงควบคุมการทำงาน ควรติดระบบสายไฟแบบถาวร ไม่ต้องถอดปลั๊กเข้าออก มีเบรกเกอร์
ระบบน้ำ

- ระบบน้ำเข้าควรเดินท่อที่มาตรฐาน หลีกเลี่ยงต่อสายยาง เพราะการต่อสายยางเข้าเครื่องซักผ้าจะทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้ หากตะไคร่น้ำหลุดไปตันที่วาล์วจะทำให้ วาล์วนำเข้าเครื่องเสียได้
- ระบบน้ำทิ้ง ไม่ควรเอาท่อเล็กไปต่อในท่อสายน้ำทิ้ง เพราะจะทำให้น้ำไหลทิ้งไม่สะดวก ควรใช้ท่อ 1นิ้วขึ้นไปในการต่อ
การใช้งานของเครื่อง

- ควรเลือกโปรแกรมซักให้เหมาะสมกับผ้า (ดูความสกปรกของผ้า)
- น้ำหนักผ้า (ปริมาณผ้า) ต้องใส่ให้พอดีไม่แน่นเกินไป เพราะจะทำให้ผ้าไม่สะอาด เนื่องจากผ้าอัดแน่นกลับตัวขณะหมุนไม่ได้ ซึ่งการใส่ผ้าที่ปริมาณเยอะไปจะทำให้เครื่องเกิดเสียงดังได้ง่าย สาเหตุจากลูกปืนแตก หรือ เพราะแกนหัก
- ชนิดผงซักฟอก , ปริมาณ ไม่เลือกผงซักฟอกที่มีฟองมากเกินไป เพราะจะทำให้ฟองล้นเครื่อง ล้างฟองไม่หมด
- อย่าใช้เครื่องติดต่อกันหลายครั้ง โดยไม่ได้พักเครื่อง
- อย่าลืมเหรียญ ทิชชู่ ฯลฯ ติดกับผ้าเข้าไป เพราะสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้าไปจะทำให้ตัวดูดน้ำทิ้งเครื่องซักผ้าเสียได้ง่าย
- ถอดไส้กรองน้ำทิ้งออกมาทำความสะอาด สม่ำเสมอ
- ถ้าเกิดมีน้ำรั่ว ให้หยุดการใช้งานและตรวจดู หรือเรียกช่าง เพราะน้ำรั่วจะลงไปที่มอเตอร์ ซึ่งอยู่ด่านล่างของเครื่องได้
- ซักเสร็จ ให้เช็ดขอบยางให้แห้งเพื่อป้องกันเชื้อรา
- ซักเสร็จให้เปิดประตูเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ ป้องกันกลิ่นอับของเครื่อง
- เลือกรอบปั่นหมาดไม่มากเกินไป 600 - 800 รอบ (รอบเร็ว จะทำให้โช๊คเสียง่าย ลูกปืนแตกง่าย)
- ไม่ตั้งอุณหภูมิมากเกินไป ไม่เกินควร 60 องศา